เสี่ยต้อมควง “สามารถ” สรรหานักมวยหน้าใหม่ เพื่อประดับแวดวงมวยไทย

เสี่ยต้อมควง

เสี่ยต้อมควง จังหวะของนักมวยคนใหม่ได้มาถึงแล้ว เมื่อ “เสี่ยต้อม บูรพา” นายใหญ่ของค่ายบูรพาทิศ เพื่อปรับปรุงค่ายมวยให้เป็น “Burapa Boxing Gym”

เสี่ยต้อมควง ซึ่งได้ร่วมงานกับทาง “พยัคฆ์ร้ายหน้าหยก” เพื่อสืบต่อวัฒนธรรมมวยไทย ให้ยังคงอยู่สืบไปคุณบูรพา ศรีภา หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ “ต้อม บูรพา” ที่ ค่ายฝึกซ้อมมวยบูรพาสตาร์เนชั่น

ซึ่งมีแผนพัฒนาค่ายมวย ให้เป็นค่ายฝึกมวยมาตรฐาน “Burapa Boxing Gym” โดยได้ร่วมงานกับทางยอดมวยระดับตำนานอย่าง สามารถ พยัคฆ์อรุณ หรือ “พยัคฆ์ร้ายหน้าหยก” ซึ่งเป็นการส่งเสริมแล้วก็ พร้อมที่จะปั้นให้เป็นนักมวยอีกทั้งรุ่นเล็กแล้วก็รุ่นใหญ่ ซึ่งมีนักมวยรุ้นเล็กที่พร้อมจะเป็นแชมป์ เป็นต้นว่า ขุนไกร บูรพาสตาร์เนชั่น แชมป์รุ่น 37 กิโลกรัม จากสัมพันธ์มวยไทยภาคกึ่งกลาง รวมทั้งภาคทิศตะวันออก

เสี่ยต้อมควง

สามารถ พยัคฆ์อรุณ หรือ เพชฌฆาตหน้าชู เด็กวัยรุ่นจากอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เขามีใจรักรวมทั้งเริ่มฝึกซ้อมมวยไทยตั้งแต่อายุ 11 ขวบ โดยใช้ชื่อว่า “สามารถ ลูกลำคลองเตย” เป็นน้องชายแท้ๆของ ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ ข่าวมวยไทย7สี

สามารถเป็นนักชกมวยไทยที่มีความแข็งแกร่ง แล้วก็มีวิธีการแพรวพราวมากมาย แม้กระนั้นสำหรับชีวิตการชกมวยสากลของเขาบางครั้งก็อาจจะไม่ประสบผลสำเร็จสักเท่าไรนัก แม้จะเคยได้แชมป์โลกสถาบัน(WBC) รุ่น 122 ปอนด์ ก็ตาม จากการชนะน็อก กัวดาลูเป ปินตอร์ ชาวชาวเม็กซิโก สามารถเป็นนักต่อยที่ได้รับความรู้สึกชื่นชมในหัวข้อการเป็นนักมวยที่มีสายตารวดเร็ว

และก็หลบเลี่ยงอาวุธคู่แข่งได้ดี การต่อยของสามารถก็คุ้มครองปกป้องแชมป์ได้หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการต่อยกับ ราฟาเอล กันดาริลญา ที่ประเทศฝรั่งเศส และก็การต่อยกับนักต่อยชาวชาวเม็กซิโก ดังเช่นว่า ฮวน คิด เมซ่า ซึ่งเป็นการปกป้องแชมป์ ด้วยการชนะหนเคโอไปในชูที่ 12 รวมทั้งไฟท์นี้เองได้สร้างความฮือฮาให้กับแฟนหมัดมวยชาวโลกมากมายก่ายกอง ด้วยการซึ่งสามารถใช้ข้างหลังอิงเชือกรวมทั้งหลบผูกคู่ปรปักษ์ได้ถึง 20 หมัดโดยที่คู่แข่งต่อยไม่โดนเลย

ภายหลังการได้เป็นแชมป์โลกแล้ว สามารถก็ได้เดินทางไปทำต่อยปกป้องแชมป์อีกรอบที่ออสเตรเลีย กับ เจฟฟ์ เฟเนค ผู้เป็นนักต่อยเจ้าถิ่น ที่เป็นอดีตนักชกมวยสมัครเล่นของกีฬาโอลิมปิก แล้วก็ถัดมาเจฟฟ์ ก็แปลงเป็นแชมป์โลกรุ่นที่ 3 แล้วก็เป็นที่รู้จักดังระดับโลกเช่นเดียวกัน

แม้กระนั้นในไฟท์นี้ที่แดนจังโก้ สามารถเสียเปรียบมากมายในเรื่องน้ำหนัก เนื่องจากว่าเสมือนเป็นไฟท์บังคับ ที่สามารถควรต้องกระทำลดหุ่นมากเกิน จนถึงบางทีอาจส่งผลให้ร่างกายของเขาหมดแรงและก็ฟิตไม่เต็มกำลัง รวม10นักกีฬา

ด้วยเหตุนี้ก็เลยทำให้สามารถจะต้องแพ้น็อคไปอย่างหมดรูปในชูที่ 4 รวมทั้งเสียแชมป์ให้กับเจฟฟ์ไป คราวนี้เป็นการต่อยที่เจ็บทั้งร่างกายและจิตใจอย่างใหญ่โตสำหรับสามารถ นอกจากจะแพ้เเล้วก็ยังถูกปรักปรำว่าล้มมวยอีก

เสี่ยต้อมควง

แล้วก็การต่อยคราวสุดท้ายของมวยสากลของสามารถเป็น ต่อยกับนักมวย เวเนซุเอลา เอลอย โรฮัส ในปี พุทธศักราช2537 ที่จังหวัดตรัง และก็ในตอนนั้นในยกที่ 8 สามารถได้แพ้คราวเคโอไปอย่างโชคร้าย จนถึงส่งผลให้สามารถจบทางนักมวยในเวลาถัดมา

สามารถ พยัคฆินย่ำรุ่ง เป็นอดีตแชมป์โลกมวยสากลอาชีพของไทยผู้ที่ 10 ภายหลังจากการต่อยครั้งสุดท้ายที่ไม่ประสบความสำเร็จ เขาก็เลยได้เลือกที่จะหันหลังให้กับแวดวงมวย แล้วก็ด้วยที่เขาเป็นนักมวยดูดี ถัดมาก็เลยได้ถูกทาบทามให้เข้าแวดวงรื่นเริง และก็ได้ส่งผลงานทางด้านการแสดงเป็นอย่างมาก และเป็นเจ้าของค่ายซ้อมมวย แล้วก็ทั้งยังยังเป็นนายกสัมพันธ์นายของหวานต้มด้วยในขณะนี้

นับว่าเป็นตำนานยอดนักมวยอัจริยะอีกคนสำหรับ “พยัคฆินหน้าหชู” สามารถ เสือย่ำรุ่ง ซึ่งหากแม้เวลาจะผ่านมาหลายสิบแล้ว แม้กระนั้นแฟนแวดวงมวยยังคงจำภาพของเขาได้อย่างติดตา แล้วก็ยังคงถูกเอ๋ยถึงมาจนกระทั่งปัจจุบันถึงผลงานที่บรรลุผลสำเร็จตั้งแต่จุดเริ่มแรกจากการเป็นนักมวยไทย แล้วก็บรรลุเป้าหมายสูงสุดสำหรับการเป็นนักมวยมืออาชีพ

สามารถ เริ่มชกมวยไทยตั้งแต่อายุ 11 ปี ก่อนก้าวมาคว้าชัยชนะสนามแข่งมวยเวทีลุมพินีถึง 4 รุ่น กระทั่งถูกสรรเสริญให้เป็นนักมวยอัจฉริยะด้วยกลเม็ดเด็ดพรายพราวแพรว สายตาดี ต่อยได้บันเทิงใจ ชนะใจผู้ชม ก่อนก้าวสู่ทางการชกมวยอาชีพ และก็แปลงเป็นแชมป์โลกผู้ที่ 10 ของไทยจากการคว้าชัยชนะรุ่นซุปเปอร์แบนตั้มเวท (122 ปอนด์) ของที่ประชุมมวยโลก 2 ยุค

ปัจจุบันนี้ สามารถ ในวัยปิ้ง 58 ปี ยังคลุกคลีอยู่กับแวดวงมวยไทยด้วยการเปิด ค่ายมวยสามารถพยัคฆ์อรุณยิม บริเวณสายไหม 31 ซึ่งโอกาสนี้พยัคฆินทร์หน้าหยกได้เปิดค่ายมวยให้ทีมงาน “มติชน” บุกไปสัมภาษณ์ถึงมุมมองต่างๆที่เขามีต่อวงการมวยไทย รวมถึงเรื่องราวทางชีวิตงบนสังเวียน จากวันวาน ถึงวันนี้ และก็พรุ่งนี้ของตำนานยอดมวยอัจฉริยะ

ขณะนี้ก็เรื่อยขอรับ ตั้งแต่ตอนโควิดมาก็ได้พักเต็มที่หน่อย อยู่บ้านสิ่งเดียวเลย ซึ่งในตอนโควิดก็มีงานละครที่จำต้องหยุดถ่ายทำ แต่ว่าเวลานี้ก็เริ่มกลับมาถ่ายแล้ว ส่วนค่ายมวยสร้างมาตั้งแต่ปี 2552 ตอนสร้างใหม่ๆใช้ชื่อว่า ค่ายฝึกมวยโลกธีรธรรม แม้กระนั้นเพียงพอเลิกกับแฟนคนเก่าก็เปลี่ยนแปลงชื่อเป็น ค่ายซ้อมมวยสามารถพยัคฆ์อรุณยิม ซึ่งทำมาได้กว่า 12 ปีแล้วนะครับ

ตอนตอนโควิดก็ถือว่าซบเซา แต่ขณะนี้ก็เริ่มกลับมาใกล้จะดังเดิมแล้วครับผม บางวันมีลูกลูกศิษย์เรียน 10-20 คน สุดแต่วันขอรับ เขาก็จะเวียนกันมา เมื่อก่อนหน้าตอนวัววิดก็จะมีลูกศิษย์ชาวต่างชาติด้วย เป็นจะมากินมานอนมาพักอยู่กับพวกเราเลย ระยะนี้ก็เหลือแค่เด็กไทย เพราะว่าฝรั่งยังเข้าไทยมิได้ขอรับ

จะต้องบอกตามจริงว่า ผมเกือบจะไม่รู้เรื่องเลย ซึ่งในเวลานี้ผู้ที่บริหารค่ายจริงๆก็จะเป็นบุตรสาวของผมที่อยู่ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ซึ่งดูแลทางต่างแดน แล้วก็ น้องมอส บุตรีรา ก็จะดูแลค่ายอยู่ที่ไทย ส่วนตัวเองนั้นมีบทบาทรอสอนนักมวย ค่อยดูแลอาจารย์มวยอีกครั้งนึง

ตอนตอนเปิดแรกๆพวกเราก็ลงไปสอนเอง แม้กระนั้นขณะนี้ก็จะรอยืนมองอาจารย์มวยสอน รวมทั้งพวกเราก็จะรอเสนอแนะ คุณครูมวยในค่ายปัจจุบันนี้มี 7-8 คน ซึ่งส่วนมากจะมีคนต้องการมาเรียนโดนตรงกับผม แต่ว่าผมก็จะกล่าวว่าพวกเรามิได้ลงไปสอนเต็มกำลังแบบครั้งก่อนแล้ว แต่ว่าจะพูดว่าอาจารย์มวยที่ค่ายนี้ทั้งหมดทุกอย่างก็จะราวผมทั้งหมดทั้งปวง

ผมจำต้องกล่าวว่า พวกเราบริหารมิได้ พวกเราใจดีเหลือเกิน พวกเรามองคนไม่เป็น ทุกๆวันนี้อย่างที่บอกไปก็คือ รอให้บุตรสาว และก็น้องมอส เป็นคนดูแล เพราะเหตุว่าถ้าหากเวลาผมกล่าวเวลากล่าวแรงไปอาจารย์มวยก็จะเศร้าใจกัน เนื่องจากธรรมดาผมจะไม่ดุด่าคนไหนกันเลย ปล่อยไปตามธรรมชาติ ผมถึงพูดว่า ผมบริหารมิได้ ก็เลยให้บุคคลอื่นมาดูแลแทน พวกเราก็มารอมองอีกครั้งนึง

พวกเราก็จะเอาความรู้ความสามารถที่มีอยู่ไปสอนเด็ก แล้วก็สอนทุกคน แม้กระนั้นขึ้นกับเด็กว่า พวกเราสอนไปแล้วเขาทำเป็นไหม บางบุคคลด้านล่างทำเป็น แม้กระนั้นเพียงพอขึ้นเขาเวทีบางครั้งก็อาจจะทำไม่ได้ ซึ่งพวกเราบอกเขาไปว่า จะต้องกล้านะ สิ่งที่บกพร่องไป ช่างเถอะ เแก้ไขกันได้ พราะบางบุคคลพวกเราสอนเขาไปเขาทำไม่ได้ ก็จะต้องมองไอคิวเด็กด้วย

หัวหน้าค่ายซ้อมมวยทุกคนก็คงจะคิดเช่นกัน หากเก่งมวยไทยไม่มีคู่ต่อยแล้วพวกเราก็จำต้องให้หันไปต่อยมวยสากล ทีนี่้พวกเราก็จำเป็นต้องมองเด็กของพวกเราเหตุว่า เก่งแนวไหน เนื่องจากหากไม่ใช่มวยความสามารถจริงๆก็ไปยาก พวกเราก็จำต้องมองเด็กของพวกเราเพราะว่าต่อยสากลได้ไหม

จริงๆนี้เกิดผลดีต่อมวยไทยที่ทั้งโลกเขาหันมาพึงพอใจ แม้กระนั้นอยู่ที่ว่า พวกเราสอนเขาอย่างไร ถ้าเกิดสอนแล้วเขาถูกใจอย่างไรเขาก็จะต้องกลับมาเรียนอีก เนื่องจากว่าค่ายซ้อมมวยทุกค่ายคนประเทศอื่นสำคัญที่สุด เพราะเขามาอยู่ที่ค่ายฝึกซ้อมมวยเป็นเดือน และช่วยทำให้ค่ายมีรายได้ หากเดือนนึงพวกเรามีนักมวยต่างประเทศสัก 7-8 คน พวกเราก็อยู่ได้สบาย

แต่ว่าช่วงนี้พวกเรายังไม่รู้จักว่า ชาวต่างประเทศจะได้เข้ามาประเทศไทยได้อย่างเดิมเมื่อไร ผมมีความคิดว่าคงจะอีกเป็นปีกว่าฝรั่งจะได้เข้ามาประเทศไทย ได้เข้ามาเรียนมวยไทย

ในตอนนี้พวกเราก็จำเป็นต้องประคองตัวกันสิ่งเดียว ทำอย่างไรให้ค่ายอยู่ได้ พวกเราก็เปลี่ยนแปลงมาเน้นย้ำที่นักมวยคนประเทศไทย ส่วนนักมวยมืออาชีพพวกเราก็ยังปราศจากความหวังว่าเขาจะกลับมาเปิดต่อยกันเมื่อไร

มันมีผลแน่ทุกแวดวงครับผม ตอนก่อนหน้าที่ผ่านมาพวกเราหยุดไป 3 เดือน แต่ว่าผู้ฝึกสอน อาจารย์มวย และก็นักมวย พวกเรายังจะต้องเลี้ยงไว้ แต่ว่ามันไม่มีรายได้เข้ามา มีแม้กระนั้นค่าใช้จ่ายสิ่งเดียว

เขาอยู่กับพวกเราในตอนโควิด จะให้เขาหยุดมิได้ แม้กระนั้นบางครั้งก็อาจจะจ่ายเงินเดือนน้อยหน่อยนะ แต่ว่ามีที่อยู่ที่รับประทานทุกสิ่งทุกอย่างพร้อม ก็จัดว่ายังพอใช้อยู่นะครับ ไม่ถึงขั้นไม่ไหว แต่ว่าถามคำถามว่าตกที่นั่งลำบากไหม ลำบากขอรับ แต่ว่าพวกเราก็ยังไหวอยู่

ตอนนี้ก็จะต้องเลี้ยงนักมวย รับประทานอยู่บำรุงทุกๆอย่างก็ยังอย่างเดิม แต่ว่ามวยไม่มีรายการต่อย ซึ่งเห็นด้วยว่า ทุกข์ยากลำบากอยู่ขอรับตอนนี้ทุกค่ายฝึกซ้อมมวย ในตอนนี้ในค่ายก็มีนักมวยอาชีพอยู่ 8 คนนะครับ ธรรมดาก็ต่อยทั่วๆไปตามเวทีลุมพินี ราชดำเนิน ด้านลูกศิษย์เอกที่พอเพียงมีแววอยู่เป็น ก้องทิศตะวันออก ทิพย์ท่าไม้ และก็นักมวยรุ่นเล็กอีกผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่มีอนาคตอยู่ครับผม