งานนี้บิดาไฟเขียว “ตงตง” จัดเซอร์ไพรส์ “เบสท์” ลูกสาวสมรักษ์วีรบุรุษโอลิมปิก

 

จำต้องกล่าวว่าเป็นโมเมนต์หวานรับต้นปีสำหรับ “ตงตง” กฤษกร กนกธร ผู้แสดงชายหนุ่มหล่อที่จัดเซอร์ไพรส์หวานใจ “เบสท์” รักษ์วนีย์ คำสิงห์ บุตรสาวคนงามของ “โม้อมตะ” สมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยกลุ่มชาติไทย วีรบุรุษผู้ครอบครองเหรียญทองโอลิมปิก 1996

โดย ศิลปินชายหนุ่มวัย 26 ปี จัดเต็มจุดเทียนเป็นใจความว่า “เป็นคนรักกัน” ในระยะเวลาตี 1 ของวันที่ 1 ม.ค. 2565 และจับมือหวานใจร่วมฉลองความสำราญรับปีใหม่ พร้อมเนื้อความหวาน “แม้จะช้า แต่ว่ามีความรู้สึกว่าก็ไม่สายเหลือเกิน ส่วนตัวสำหรับเรา พี่รักหนูครับผม”

เวลาที่ บุตรสาวคนงามของอดีตกาลนักต่อยไทย เปิดเผยความรู้สึกในคราวนี้ว่า “ขอบคุณมากนะคะพี่ตงตง สวยสดงดงามมากมายๆน่ารักน่าเอ็นดูมากมายๆไม่ทราบจะบอกอะไร เว้นเสียแต่ ขอบคุณมาก ขอบพระคุณจริงๆจากหัวใจจ้ะ ไม่มีอะไรที่ช้าเกินความจำเป็นสายเหลือเกิน ขอบพระคุณที่ตั้งจิตใจทำให้หนู จะตอนไหนเวลาใดหนูก็รักพี่นะ (สถานะ: มีคนรักแล้ว) รักนะคุณแฟน”

สำหรับความเชื่อมโยงของทั้งสองจำต้องพูดว่าเปิดตัวคบค้าสมาคมกันอย่างเป็นทางการเมื่อมีนาคม ก่อนหน้านี้ แม้กระนั้นก็ไม่มีการประกาศขอเป็นคู่รักกัน กระทั่งปัจจุบัน ดารานำชายซุปตาร์ ตกลงใจขอหวานใจเป็นแฟนหนแรกอย่างทางการ ซึ่งงานนี้บอกเลย พ่อแฟนสาวอย่าง สมรักษ์ คำสิงห์ ถึงกับนั่งยิ้มไม่หุบข้างหลังมองเห็นบรรยากาศนี้

งานนี้บอกเลย “ตงตง” กฤษกร กนกธร นอกเหนือจากการที่จะปราบดวงใจแฟนสาวได้แล้ว ยังผ่านด่านพ่อตาได้แบบสบายๆข้างหลังก่อนหน้าที่ผ่านมาเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่กลัว พ่อสมรักษ์ คำสิงห์ เพราะว่ามาดีมีแต่ว่าความบริสุทธิ์ใจ ก่อนแปลงเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของครอบครัวได้เสร็จ

“บาส” สมรักษ์ คำสิงห์ สมัยก่อนนักมวยกลุ่มชาติไทย วีรบุรุษผู้ครอบครองเหรียญทองโอลิมปิก 1996 ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวครั้งอดีตกาลเกี่ยวกับการโดนฟ้องล้มละลาย ที่ทำเอาหมดกระเป๋าทั้งยังบ้าน อีกทั้งค่ายฝึกซ้อมมวย แล้วก็ห้องอาหาร ถูกยึดหมด แถมยังถูกหมายศาลแจ้งว่าเป็นหนี้เป็นสินอีกถึง 9 ล้านบาท

โดย สมัยก่อนหมัดวัย 48 ปี ได้เปิดใจผ่านรายการ ตีท้ายครัว “ในช่วงเวลานั้นผมทำร้านค้าปิ้งประเทศเกาหลี แล้วปี 2553 มันมีปัญหาหัวข้อการเมืองปะทะกัน ร้านค้าพวกเราอยู่ในโซนพระโขนง ในช่วงเวลานั้นเจ๊งเลย ในเวลานั้นเปิด 3 สาขา เวลานี้ทำหมูกระทะ และทำค่ายซ้อมมวยด้วยแต่ว่าในที่สุดก็จำเป็นต้องปิดทั้งปวง”

“แล้วก็หมดไม่เหลืออะไรเลย มีปัญหาหัวข้อการผ่อนบ้าน เพียงพอไม่ผ่อน เขาก็ยึดบ้าน 6 ปีถัดมา ก็มีหมายมาว่าพวกเราเป็นหนี้เป็นสิน 9 ล้านบาทเพราะว่ามิได้ผ่อน ถูกยึดบ้าน ยึดรถยนต์” ถึงกับขนาดเปลี่ยนเป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งในตอนนั้นเจ้าตัวเปิดเผยว่าเป็นตอนชีวิตที่ทุกข์ยากลำบากมากมายๆขาดเงินใช้ขนาดจำต้องขอเงิน “น้องเบสท์” รักษาวนีย์ คำสิงห์ บุตรสาวตนเองใช้

พร้อมกล่าวว่า ชีวิตกลับมาได้ไพเราะลูก 2 คน อีกทั้ง “เบสท์ คําสิงห์” ทำช่องยูทูบถ่ายน้องชาย “โบ๊ท คําสิงห์” เตะบอลลงช่องยูทูบกระทั่งมีรายได้ ซึ่งบุตรสาวพูดว่า ในตอนนั้นอายุ 18 ปี ไม่รู้เรื่องปัญหาของครอบครัวเลย ตราบจนกระทั่งมามองเห็นจากข่าวสาร และก็ได้เอารายได้ทั้งหมดทั้งปวงให้แม่ไปจ่ายหนี้ และก็บอกจะเป็นเสาหลักของบ้านดูแลครอบครัว

ด้าน “น้องเบสท์” เปิดเผยว่าในตอนที่บิดาล้มละลายไม่รู้เรื่องเลย “ขณะที่ล้มละลายพวกเราอายุ 18 ปี อยู่ปี 1 ในเวลานั้นเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เป็นหนูทราบจากข่าวสารเลย ไม่ทราบมาก่อนว่าครอบครัวมีปัญหา ทราบจากข่าวสารว่าบิดาล้มละลาย”

“คุณพ่อกับคุณแม่ไม่เคยเล่าให้ฟัง อยากได้อะไรบิดามารดาก็ซื้อให้ เขาไม่เคยทำให้พวกเราคิดว่าเขาไม่มี พอเพียงทราบจากข่าวสารก็ตกอกตกใจ เพื่อนฝูงด้วย สังคมด้วย เดินไปไหนมีแต่ว่าคนมองดู แล้วพูดว่า สู้ๆนะหนูที่บิดาล้มละลาย”

“บ้านข้างหลังนั้นโดนยึดแล้วมีคนมาซื้อแล้วด้วย ผู้ครอบครองใหม่เขาก็จะมาแล้ว คนใหม่มาเอากุญแจไปแล้ว พวกเราเหลือในเวลาที่จึงควรย้ายออกเพียงแค่ 2-3 วัน พอเพียงบิดาโดนฟ้องล้มละลาย บัญชีบิดาก็ใช้ไม่ได้ เขาก็ขาดเงิน ในช่วงเวลานั้นทำยูทูบแล้ว ก็ได้เงิน แม้กระนั้นพึ่งจะทำเป็นไม่ถึง 1 ล้านซับ หนูเลยเอาเงินยูทูบทั้งผองให้แม่จัดแจง” ได้รับผลประโยชน์

“เป็นบิดาอยากได้บ้านข้างหลังนั้นคืน ก็กล่าวว่าบิดา สักครู่พวกเราไปเช่าแล้วเริ่มต้นใหม่ ก็กล่าวว่าประเดี๋ยวจะซื้อ 2 ข้างหลังแล้วจะผ่อนเอง จะหารายได้มาผ่อนให้ได้ ปัจจุบันนี้ก็เป็นเงินหนูทั้งหมดทั้งปวงที่ใช้จ่ายในบ้าน ก็ซื้อบ้าน 2 ข้างหลัง ข้างหลังละ 15 ล้าน รวมเป็น 30 ล้าน ช่วงแรกซื้อข้างหลังเดียว แม้กระนั้นอีกข้างหลังนึงว่างพอดิบพอดี เลยเอา 2 ข้างหลังเลย หากมีพื้นที่มากมาย ก็จะถ่ายคลิปได้เยอะแยะ ซื้อเป็นที่พักอาศัยบวกกับใช้งานด้วย อยู่กัน 5 คน”

สำหรับครอบครัวของ สมรักษ์ คำสิงห์ ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาจำต้องพบกับเรื่องราวล้นหลาม โดยเมื่อ 3 ปีกลาย จำต้องพบกับปัญหาเกี่ยวกับทางการคลัง ข้างหลังศาลกึ่งกลางสั่งปกป้องสมบัติพัสถานเด็ดขาด ทำให้แปลงเป็นบุคคลล้มละลายพร้อมทั้งเมีย ซึ่งก็มีลูกสาว และก็ลูกชายที่เป็นคนช่วยหารายได้ในตอนที่ครอบครัวพบวิกฤต ก่อนที่จะเมื่อมี.ค. ปี 2563 ศาลล้มละลายกึ่งกลางได้มีคําสั่งยกเลิกการหมดตัวลง