เปิดปูมชีวิต “ดาวมฤตยู” สะเก็ดดาว เพชรพญาไท ยอดมวยไทยที่ผันตัวสู่วงการ MMA

เปิดปูมชีวิต

เปิดปูมชีวิต “ดาวมฤตยู” สะเก็ดดาว เพชรพญาไท นักมวยสูงยาวขุนเข่าดินระเบิด มีลูกดึงแทงเข่าตื่นเต้น หาตัวจับยาก เจ้าของรางวัลเกียรติยศมากไม่น้อยเลยทีเดียว

เปิดปูมชีวิต เคยผงาดคว้ารางวัลนักมวยไทยเยี่ยมยอดจากเวทีมวยเวทีลุมพินี ก่อนก้าวขึ้นเป็นนักมวยไทยดีเด่นการกีฬาแห่งประเทศไทยถึง 2 ปี เป็นดาวตกแต่งฟ้าแวดวงมวยอีกดวง ถึงแม้ปัจจุบันนี้จะแปลงสไตล์หันมาจับกีฬาการต่อสู้ แบบผสมผสาน (MMA) เพื่อท้าสมรรถภาพ ของตน

เปิดปูมชีวิต

จะกลับมาชกในข้อตกลงมวยไทย หนแรกในรอบ 6 ปีกับนักต่อยดินแดนมังกร “จาง ฉุนยู่” ก่อนที่จะได้ดูฟอร์มมวยไทยที่ยกเครื่องใหม่ของ ขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักเขาให้เยอะขึ้นตั้งแต่ก้าวแรก ของการขึ้น สังเวียนศิลป์แม่ไม้มวยไทย

มีชื่อจริงว่า “กิตติชัย ชูรัตน์” ชื่อเล่น “อ๋า” ตอนนี้อายุ 33 ปี กำเนิดตอนวันที่ 1 ม.ค. 2530 เป็นบุตรของคุณพ่อ วิรัตน์ และก็คุณแม่ สีดา ถิ่นฐานบ้านเกิดอยู่ที่ ตำบลตามเรียง อำเภอกันทรพิชัย จังหวัดมหาสารคาม มีน้องสาวร่วมท้องหนึ่งคนชื่อ นุสรา ข่าวมวยไทย7สี

ครอบครัวของ มีฐานะยากแค้น พื้นเพประกอบอาชีพ ทำนาค้าขาย พ่อเป็นคนชอบมวย จึงสอนมวยให้เขาตั้งแต่เล็กๆพอเพียงอายุ 10 ขวบ ก็เลยส่งไปเรียนมวยที่ค่ายเกียรติยศถาวร ของ “สมอำนาจ เทพธานี” ซึ่งเป็นเพื่อนกับบิดา ฝึกซ้อมได้เพียงแค่เดือนเดียว เขาขอขึ้นชกประเดิมชื่อ “สามดาว เกียรติถาวร” ในงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ผลของการต่อยแพ้แต้มจำพวกเป็นที่ยอมรับว่าแทบจะมิได้ทำอะไรเลย ด้วยเหตุว่าอากาศหนาวมากมาย ขยับแขนขาไม่ออก ยืนแข็งให้คู่ต่อยเตะอยู่ฝ่ายเดียว ก่อนได้รับค่าตอบแทน 100 บาทเป็นการปลอบใจ ที่มาของชื่อ

เปิดปูมชีวิต เจ้าอ๋า อยู่กับค่ายเกียรติถาวรได้ 3 ปี ค่ายก็ปิดตัวลง เนื่องจากมีคนมาเรียนน้อย ก็เลยย้ายไปอยู่ค่ายลูกศิษย์ ดอนคิงส์ ของสมัย ก่อนนักมวยเก่า “ดอนคิงส์ ห้องอาหารกวิน” พร้อมด้วยขึ้นชื่อชกมวยใหม่ว่า “สะเก็ดดาว ลูกศิษย์ดอนคิงส์” เนื่องจากอยากได้ชื่อที่มีดาวหลายๆดวง

ด้วยสไตล์การต่อยดุเดือด มวยหัวเข่า จำพวกเดินหน้า ท้าทายชนถอยหลังไม่เป็น ก็เลยทำให้ เป็นมวยถูกตลาดจนกระทั่งเลื่องลือขึ้นมาเรื่อยโดยมีไฟต์สำคัญเปลี่ยนแปลงชีวิต เป็นไฟต์ที่เดินทางไปชกมวยรายการใหญ่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งก่อนต่อย กลายเป็นรองถึง 3 เท่าตัว แต่ว่าด้วยหัวใจนักสู้ มาแล้วแพ้ไม่ได้ ก็เลยเดินชนแล้วก็แทรกชนะคะแนนมวยดังรุ่นพี่ “สมรักษ์น้อย มัธยมเมืองชุมแพ” ไปแบบสะใจกองเชียร์

เปิดปูมชีวิต

แล้วไปเข้าตาแมวมองอย่าง “เบิ้ม ภูเขาดิน” เจ้าพ่อมวยเด็กภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งติดต่อทาบทามเขาด้วยค่าตอบแทนหนึ่งแสนบาท เพื่อไปต่อยในสายศึกเกียรติเพชร ซึ่งช่วงแรกๆน้ำหนักตัวยังไม่ถึง 100 ก็เลยจะต้องชกหา ประสบการณ์แถวภาคอีสานไปก่อน รวมทั้งขึ้นชื่อขึ้นตรงต่อใหม่เป็น “สะเก็ดดาว เพชรพญาไท” แต่ว่าเก็บเนื้อเก็บตัวที่ค่าย ป.เชิดเกียรติ

เข้าพระนครคราวแรกตอนอายุ 17 ปี ถูกตามติดให้พบของแข็งวัดชั้นกับ “หยกขาว ป.บูรพา” มวยเด็กฟอร์มสดผ่านสังเวียนเมืองหลวงมาแล้วถึง 5 ไฟต์ ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้ทางค่ายผิดหวัง ข้างหลังคว้าชัยในรายการศึกเกียรติเพชรที่เวทีมวยลุมพินีได้เสร็จ

เปิดปูมชีวิต ด้วยผลงานชนะมวยเก่งมีระดับในตอนนั้น ก็เลยถูกโปรโมตขึ้นชิงแชมป์ช่อง 7 สี รุ่นพินเวต 102 ปอนด์ต่อโดยทันที พบกับคู่ปรับเก่า หชูขาว ที่ตามมาแก้ตัวโดย เป็นข้างย้ำโกรธแค้นไปอีกรอบ รวมทั้งได้ครองแชมป์สถาบันหลักเส้นแรกของชีวิต

ภายหลังเป็นแชมป์ช่อง 7 สี ได้สร้างเกียรติยศ ด้วยการได้แชมป์ได้อีกหลายเส้น อีกทั้งแชมป์ลุมพินี รุ่นเฟคุณร์เวต 126 ปอนด์, แชมป์ราชดำเนิน รุ่นเฟเธอร์เวต 126 ปอนด์, แชมป์สมาพันธ์มวยไทยอาชีพโลก (WPMF) รุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวต 130 , แชมป์ลุมพินี รุ่นไลต์เวต 135 ปอนด์ 2 สมัย, แชมป์สภามวยโลก WBC มวยไทย รุ่นซูเปอร์ไลต์เวต 140 และก็ แชมป์แม็กซ์มวยไทย ปี 2556 รุ่น 67 กิโลกรัม

นอกจากปัดกวาดแชมป์หลาย ต่อหลายเส้นในตอนปี 2550 – 2552 ยังส่งผลงานสะดุดตาเป็นที่ประจักษ์ ได้รับรางวัลนักมวยไทยเยี่ยมยอดจากเวทีมวยเวทีลุมพินีปี 2550 และก็รางวัลนักมวยไทยดีเด่นการกีฬาแห่งประเทศไทย ปี 2550 รวมทั้งปี 2552 ยอดมวยมหาสารคาม ช้างเผือกภูธรเจ้าของคติประจำใจ “ยามแพ้อย่าลดละ ยามชนะอย่าฮึกเหิม” ได้สมญานาม “ดาวมฤตยู” จากคณะทำงานเกียรติเพชร เพราะเหตุว่าอยากให้แฟนคลับเห็นภาพความเก่งกาจของ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จุฑามาศควง

เนื่องจากว่าเขาเป็นมวยใหญ่รวมทั้งมีความเก่งกาจไร้เทียมทาน ทำให้หาตัวต่อยยาก ด้วยเหตุว่าตลาดมวยใหญ่เกิน 136 ยังไม่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ก็เลยจำต้องคุมน้ำหนัก ท้ายที่สุดข้างหลังแพ้แต้มให้กับ “ปกรณ์ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” เขาก็เลยตกลงใจวางมือในปี 2557 ช่วงนั้นเขาถูกทาบทามจาก “อาจารย์เป็ด” ยอดณรงค์ ลูกศิษย์ยอดธง เชิญให้ไปสอนมวยไทยที่ยิม Evolve MMA ประเทศสิงคโปร์ ตกลงใจเปลี่ยนแปลงหน้าที่ใหม่เป็น “คุณครูอ๋า” เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2558 เป็นต้นมา

สามเดือนแรกของการเป็นอาจารย์มวย เขาเกือบจะยอมแพ้กับอาชีพใหม่นี้ และก็ทั้งยังจะมีเรื่องของปัญหาเรื่องของภาษา การจากถิ่นกำเนิด รวมทั้งห่างครอบครัว โชคดีที่ อาจารย์เป็ด รั้งเขาเอาไว้ พร้อมให้การช่วยเหลือแล้วก็รอช่วยเหลือ กระทั่งท้ายที่สุดเขาก็สามารถไปต่อกับอาชีพนี้ได้อย่างสุขสบาย

ถ้าเกิดแม้กระนั้นทางบนสังเวียนกีฬาการต่อสู้ของ ไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้ ภายหลังจากได้คลุกคลีอยู่กับการศึกษาการสอนในยิมที่มีหลากหลายประเภทศิลป์การต่อสู้ ทำให้เขาได้ได้โอกาสเรียนวิชาบราซิลเลียนชาวยิวยิตสู และก็กำเนิดไฟที่ต้องการจะขึ้นชก เมื่อได้มองเห็นยอดมวยไทยแล้วก็คุณครูมวยร่วมค่ายอย่าง “อำนาจดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค” ประสบความสำเร็จบนเวที วัน แชมเปียนชิพ

ฝึกซ้อมทักษะการต่อสู้แขนงใหม่อยู่ราวๆสองเดือน ก็ตกลงใจเปิดฉากศึกแรกในมีนาคม 2560 โดยประกาศแรงบนทางใหม่ด้วยการชนะคราวเคโอ.ตั้งแต่ชูแรก ในข้อตกลงการต่อสู้แบบประสมประสาน (MMA) ซึ่งตอนนั้นจัดขึ้นที่ประเทศไทย ถือเป็นการกลับรูปแบบใหม่ในกีฬาที่แตกต่างจากเดิม

จากวันนั้นถึงวันนี้ แข่งขันการต่อสู้แบบผสมผสานมาแล้ว 4 ไฟต์ เก็บชัยชนะได้ 3 ครั้งแบบไม่ครบยก ก่อนจะร้างสังเวียนไปตั้งแต่ตอนกลางปี 2561 เพื่อรักษาตัว

ภายหลังอาการบาดเจ็บภายในร่างกายหายดี ก็ได้ฤกษ์ดีที่เขาจะหวนกลับสังเวียนอีกรอบ แต่ว่าคราวนี้เขาจะโชว์ความสามารถในข้อตกลงมวยไทยที่รกร้างราไปถึง 6 ปี ซึ่งมั่นใจว่าด้วยข้อตกลงที่รู้จักดีนี้เขาจะคว้าแชมป์แล้วก็โชว์ฟอร์มได้อย่างต้องใจแฟนทั่วทั้งโลก อย่างแน่นอน