ชมชัดๆเอสตราด้า คืนสังเวียนปิดบัญชี “คูเอดราส” ยก 11 ป้องแชมป์ WBC

ชมชัดๆเอสตราด้า

ชมชัดๆเอสตราด้า “เอล กัลโล่” ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า กำปั้นชาวเม็กซิโก แชม์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท ที่ประชุมมวยโลก (WBC) ขึ้นชกปกป้องแชมป์กับ คาร์ลอส คูเอดราส

ชมชัดๆเอสตราด้า โดยเกมการต่อยในตอน 3 ยกแรก คาร์ลอส คูเอดราส เป็นฝ่ายทำเป็นเหนือกว่าชัดแจ้ง แถมในช่วงปลายยก 3 ยังปลดปล่อยอัปเปอร์คัตขวาส่งแชมป์โลก ร่วงลงไปให้ผู้ตัดสินนับถึง 8 แม้กระนั้นดีที่ระฆังหมดยกช่วยไว้ได้ทัน

ต่อจากนั้นในตอนยก 4-9 หมัดทั้งสองออกมาแลกหมัดกันอย่างสุดดุเดือดเลือดพล่านจำพวกไม่มีผู้ใดยอมคนใด และก็เป็น ฮวน เอสตราด้า ที่เริ่มคุมจังหวะเกมได้เหนือกว่าบ้างโจมตีกระทั่ง คูเอดราส ออกอาการเหนื่อยอย่างชัดเจน

ชมชัดๆเอสตราด้า

ไปสู่ยก 11 “เอล กัลโล่” ปล่อยซ้ายส่งผู้ท้าชิงหล่นลงไปให้ผู้ตัดสินนับ 8 ต่อจากนั้นก็ไล่ถลุงชุดใหญ่ก่อนปล่อยขวาตรงส่งลงไปกองอีกรอบ แต่ว่า คูเอดราส กัดฟันยืนขึ้นมาสู้ได้ต่อ แต่ในที่สุดกรรมการก็จับแพ้เนื่องจากเจ้าตัวโดนไปเยอะจนหมดสภาพที่จะสู้ต่อ

ทำให้ ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า ป้องกันแชมป์ไว้ได้ครั้งที่ 2 แบบลุ้นอ่อนเพลีย รวมทั้งจำเป็นต้องคอยลุ้นกันถัดไปว่าไฟต์หน้าจะเจอกับคนไหนกันแน่ระหว่าง “เจ้าแหลม” จังหวัดศรีสะเกษ เมืองหลวงโปรโมชั่น หมัดชาวไทย หรือ ทำสงครามล้มแชมป์กับ “ช็อคโกลาติโต้” โรมัน กอนซาเลซ หมัดชาวนิการากัว แชมป์สัมพันธ์มวยโลก (WBA) ข่าวมวยไทย7สี

สำหรับแฟนมวยชาวไทยนั้น หลายท่านอาจรู้จัก ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า ในฐานะนักต่อยที่ แพ้ แล้วก็ ชนะ ศรีสะเกษ เมืองหลวงโปรโมชั่น ได้เสร็จ เพราะเหตุว่าอีกทั้ง 2 ไฟต์นั้นเป็นไฟต์ประวัติศาสตร์ของแวดวงมวยสากลของไทย

โดยยิ่งไปกว่านั้นไฟต์แรกที่ “เจ้าแหลม” เป็นข้างชนะนั้น เกิดเหตุราวมากยิ่งขึ้นมาย ชัยตอนนั้นทำให้พวกเรารู้จักอีกหลายประเด็นเบื้องหลังเบื้องหลังของ จังหวัดศรีสะเกษ ในฐานะนักสู้ทั้งยังบนสังเวียนรวมทั้งชีวิตจริง

แต่ในมุมของ เอสตราด้า ล่ะ ? ก่อนที่จะเขาจะขึ้นชกกับ จังหวัดศรีสะเกษ ทั้งยัง 2 ที เขาจะต้องพบกับอะไรมาบ้าง หลังจากความแพ้พ่ายเกิดอะไรขึ้น รวมทั้งอะไรนำไปสู่ชัยในไฟต์แก้ตัว จนกระทั่งคว้าสายรัดเอวแชมป์โลกที่สร้างความเจ็บปวดให้กับชาวไทย

ถ้าเกิด ศรีสะเกษ เมืองหลวงโปรโมชั่น เป็นยอดนักสู้จากดินแดนอีสาน ผู้ผ่านชีวิตที่ทุกข์ยากมามากมายก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแชมป์โลกได้ ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า เองก็มีปูมหลังและก็พนันชีวิตที่ไม่ต่างอะไรกันมากนัก

สิ่งหนึ่งที่จะต้องสารภาพเป็นความมุ่งมั่นแล้วก็ความหัวใจสู้ที่มีตั้งแม้กระนั้นยังเด็ก บ้านเกิดของเขาอยู่ที่ ปูเอร์โต ปีนาสโก (Puerto Penasco) อันเป็นเมืองที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเม็กซิโกในตอนนี้ (เริ่มข้างหลังสมัย 2000s เป็นต้นมา) ติดชายแดนของประเทศสหรัฐอเมริการอบๆเมืองแอริโซน่า แต่ในยุคที่ ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า ยังเป็นเด็กอยู่นั้น นี่ไม่ใช่ที่ที่คึกคักและก็มีประชาชนหนาแน่น แต่ว่าที่แน่นอนหลายครอบครัวตรงนี้มีฐานะอดอยาก ใครใช้ให้อ่อนหัด

ชมชัดๆเอสตราด้า

จะว่าไป เม็กซิโก ก็มีอะไรคล้ายกับเมืองไทยของพวกเราหลายอย่าง ที่ราวกับเป็นอย่างมากที่สุด ก็คือการมีคนยากจนมากกว่าคนมั่งมีในประเทศ มีปัญหาเรื่องสิ่งเสพติดคือปัญหาใหญ่ หรือถ้าหากจะดูในเรื่องของกีฬา อย่างต่ำๆก็เรื่องของมวยนี่แหละ ที่แสดงการดำรงชีวิตของคนภายในสังคมได้อย่างดีเยี่ยม

ถ้าหากคิดจะชกมวยเป็นอาชีพเลี้ยงชีพแล้วล่ะก็ นี่เป็นกีฬาลู่ทางของคนยากจนอย่างแท้จริง ที่ประเทศไทยพวกเราสามารถหาอ่านแล้วก็มองความเป็นมาของนักมวยไทยคนไม่ใช่น้อย แล้วก็พบว่าพวกเขาสู้เพียงแค่ตายกว่าจะใช้วิชาหมัดมวยแลกเปลี่ยนกิตติศัพท์ทรัพย์สินมาได้ ซึ่งแน่ๆ ที่ ประเทศเม็กซิโก ก็ไม่ได้มีความแตกต่างกัน

ณ เม็กซิโก สิตี้ เมืองหลวงของพวกเขา สะท้อนความมุมานะของผู้เลือกทางนักมวยได้อย่างยอดเยี่ยม โดยยิ่งไปกว่านั้นเขตเสียอย่าง เตปิโต (Tepito) ที่เปิดช่องเลือกให้เด็กๆที่เกิดในนั้นเพียงแต่ 2 ทาง … จะต้าน หรือ ร่วม ในทางอาชญากรรมรวมทั้งยาเสพติด ซึ่งบางบุคคลก็เด็กเหลือเกินกว่าจะทันได้คิด แล้วก็เลือกคำตอบที่ไม่ถูกไปอย่างไม่ตั้งใจ

“มีความรุนแรง โจรขโมย รวมทั้งอาชญากรรมในทุกวัน คุณประสบพบเห็นความรุนแรงกลุ่มนี้ได้ทุกที่ คนจากเขตนี้จำต้องดิ้นรนฝ่าฟันอย่างมากเสมอ” ฮอร์เก เวรา (Jorge Vera) โค้ชมวยราบหนึ่งใน เตปิโต เล่าถึงชีวิตอันลำบากในดินแดนชำรุดนี้

ไม่แตกต่างจากเมืองไทยนัก เวรา เล่าต่อว่ามวยเป็นทางลัดที่เหมาะสมที่สุด เท่าที่เด็กๆที่มาจากครอบครัวฐานะยากจนข้นแค้นจะมี นี่เป็นกีฬาที่ยอดนิยมด้วยเหตุว่าไม่ต้องพึ่งคนใดกัน ตัวคุณผู้เดียวล้วนๆพลังหมัด ภาวะจิตใจ แรงขับ และก็ ภาระหน้าที่เบื้องหลัง เป็นตัวสนับสนุนที่ทำให้นักมวยประเทศเม็กซิโกฝึกซ้อมหนักเพื่อแลกเปลี่ยนกับผลที่หอมหวานที่สุด โน่นเป็นการได้เป็นแชมป์โลก ซึ่งในประเทศที่นี้มีนักมวยสากลระดับแชมป์โลกมากยิ่งกว่า 250 คน … มากยิ่งกว่าทุกประเทศบนโลกใบนี้

“ทุกคนรู้จักเม็กซิโกจากการชกมวย นี่เป็นวัฒนธรรมของเชื้อชาติทหาร อะไรทำให้พวกเรารุดไปด้านหน้าเสมอ เพราะเหตุว่านักต่อยทุกคนมาจากครอบครัวที่ยากจนข้นแค้น พวกเราทำมันเพื่อครอบครัว เราถึงควรเป็นนักสู้ เราชาวเม็กซิโก โน่นเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุไรนักต่อยชาวเม็กซิโก ถึงได้สู้เต็มที่บนสังเวียน” เวรา สรุปบ้ามวยของชาวชาวเม็กซิโกไว้อย่างครบถ้วน

ตัดกลับมาที่ เอสตราด้า อีกรอบ หากแม้ถิ่นกำเนิดของเขาจะไม่ใช่ประเทศเม็กซิโก สิตี้ แต่ว่าชีวิตความเป็นอยู่ในวัยเด็กก็มิได้หนีจากที่ เวรา เล่ามามากมายนัก เขาอาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงโดดเดี่ยว จนถึงอายุได้ 7 ขวบแม่ก็เสียชีวิตด้วยเหตุว่าโรคประจำตัว ก่อนที่จะถูกส่งไปอยู่กับป้าที่ช่วยดูแลหลังแม่จากไป

แน่ๆ ฐานะของป้าไม่ได้หนีจากบ้านของเขานัก แต่ว่าป้าของเขาก็ดูแลเขาเป็นอย่างดีเหมือนกับลูกในไส้ ตัวของ เอสตราด้า เองก็เรียกป้าของเขาว่า “แม่” แล้วก็ให้ความนับถืออย่างมาก แต่ว่าความจนเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาจำต้องออกห่างจากคนในครอบครัวอีกรอบ

แต่ว่ามันเกิดขึ้นตอนที่เขาอายุ 15 ปีแค่นั้น ถ้าเกิดเทียบกับเด็กไทยก็เป็นเด็ก ม.3 ที่โดนส่งไปอยู่อีกเมืองที่ชื่อ เฮอร์โมสิลโล (Hermosillo) เหตุผลเดียวที่เขาออกจากบ้านเป็น เขาถูกส่งไปฝึกฝนให้เป็นนักมวยอาชีพ กีฬาที่เขาเริ่มฝึกหัดมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ … อย่างกับเด็กเม็กซิกันหลายคน เขาเลือกทางลัดที่มีรุ่นพี่ให้สะกดรอยล้นหลาม แม้ว่าจะยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่ว่า เอสตราด้าในเวลานั้นเริ่มไม่กลัวที่จะเจ็บตัวเพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินแล้ว

การไปอยู่ฝึกมวยของ เอสตราด้า ในวัยเด็ก มีเป้าหมายที่การเป็นนักต่อยอาชีพอย่างชัดเจน ฮีโร่ของเขาเป็น ฮูลิโอ เซซาร์ ชาเวซ ตำนานนักต่อยเม็กซิกันผู้เคยเอาชนะมามากยิ่งกว่า 100 ไฟต์ เว้นแต่เรื่องความเก่งกาจแล้ว ทางนักสู้ชีวิตของ ชาเวซ ก็เปลี่ยนเป็นหนึ่งในเหตุนั้นด้วย

“ไม่ว่าเพราะเหตุว่าโชคดีหรือโชคร้าย คนเม็กซิโกเป็นพวกเจ้าอารมณ์ และก็นักต่อยเม็กซิโกทุกคน ส่วนมากมาจากครอบครัวที่ยากแค้น แล้วก็เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของคุณ คุณยอมตายบนสังเวียน เพื่อเอาเงินไปอุดหนุนครอบครัว” นี่เป็นสิ่งที่ ชาเวซ ชี้แจงถึงกรรมวิธีต่อยของนักมวยชาวชาวเม็กซิโกได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่ง เอสตราด้า ก็เป็นเยี่ยมในนั้นด้วย

สไตล์ของ เอสตราด้า เป็นมวยไฟเตอร์เดินหน้าไม่กลัวผู้ใดกันแน่ บุกเดินหน้าแบบไม่มีหมด หมัดของเขาเร็วแล้วก็ร้ายแรงอย่างกับเป็นการสะท้อนตัวตนในสมัยก่อน เขาใช้เวลาไม่นานนักก็สามารถเทิร์นโปรเป็นนักต่อยอาชีพได้ในวัยเพียงแค่ 18 ปี แค่นั้น ทางการลืมหน้าอ้าปากที่เขายอมออกมาจากบ้านในตอนวัยรุ่นเริ่มขึ้นแล้ว

เขาใช้เวลาเพียงแต่ไม่กี่ปีข้างหลังเทิร์นโปร ก้าวขึ้นมาเป็นนักมวยแชมป์ของเมืองและก็เริ่มโด่งดังในประเทศ ก่อนที่จะในไฟต์ที่ 16 หลังชนะมา 15 ไฟต์รวด เขาจะคว้าสายรัดเอวแชมป์เส้นแรกจาก มานูเอล เมนดาริซ ด้วยการน็อคในชูที่ 2 ได้แชมป์ฮิสแปนิก (กรุ๊ปประเทศที่บอกภาษาประเทศสเปน) รุ่นซูเปอร์ฟลายเวตของ WBC มาครอบครองได้เสร็จ ขณะต่อจากนั้นความโด่งดังของเขาเริ่มกระจัดกระจายไปไกล

ในปี 2012 หรือ 4 ปีหลังจากเทิร์นโปร เขาก็ได้พบกับไฟต์ที่หินที่สุดในชีวิต โน่นเป็นการพบกับ โรมัน กอนซาเลซ นักต่อยแชมป์โลกรุ่น ไลท์ฟลายเวต จาก นิคารากัว รวมทั้งในไฟต์นั้น เอสตราด้า ที่เป็นข้างลดน้ำหนักลงมาจากพิกัดธรรมชาติ เป็นข้างแพ้คะแนนไปข้างหลังครบ 12 ยก

แม้ว่าจะแพ้ไปก่อน แม้กระนั้นเขาเชื่อเสมอว่าจังหวะครั้งที่ 2 มีอยู่ตลอดถ้าเกิดไม่ยอมแพ้ ภายหลังจากแพ้ กอนซาเลซ ในตอนวัยรุ่น ซึ่งเป็นการปราชัยครั้งที่ 2 ในชีวิตนักต่อยอาชีพ เอสตราด้า ก็ไม่เคยแพ้คนไหนอีกเลย

หนำซ้ำยังเป็นมวยแมสเยอะขึ้นจวบจนกระทั่งได้ไปต่อยในประเทศสหรัฐอเมริกา ดินแดนที่ชี้วัดกันว่านักมวยคนนี้จะรุ่งหรือเปล่าบนทางนักต่อย เพราะเหตุว่าถ้าเกิดต่อยมัน ต่อยเข้าตาผู้ชมกระทั่งเป็นขวัญใจ ยืนยันได้ว่าทางในสายนี้จะไปได้ไกลกว่าที่คิดอย่างแน่แท้

ในไฟต์ชิงตั๋วทองคำ เอสตราด้า พลาดท่าให้กับ คูเอดราส ในชูแรกๆแต่เมื่อเข้าตอนกึ่งกลางแล้วก็ปลายของไฟต์ ลีลาท่าทางการเดินหน้าแล้วก็ปลดปล่อยหมัดจากรอบทิศทาง หลายแบบทั้งยังซ้าย ขวา แล้วก็ อัปเปอร์คัต ของ เอสตราด้า ก็จนตรอกทุกคนรู้สึกว่าเขาชนะแน่

แต่ว่าแม้กระนั้นยังมีเรื่องมีราวให้ลุ้นกระทั่งวินาทีในที่สุด เนื่องจากในตอนประกาศคะแนน ไมเคิล บัฟเฟอร์ พิธีกรเวทีดันประกาศชื่อของ คูเอดราส ว่าเป็นผู้ชนะเสียแบบงั้น ขณะที่แฟนคลับ

กำลังโห่กันระงมเพราะเหตุว่าพวกเขาถูกอกถูกใจมวยมันประเภทดุอย่าง เอสตราด้า มากยิ่งกว่า แต่ว่าต่อไปไม่นานก็มีการแก้ตัวว่ามีความผิดพลาดทางเทคนิค ก็เลยทำให้มีการประกาศชื่อผู้ชนะไม่ถูก ท้ายที่สุดกรรมการก็แปลงฝั่งแล้วก็ยกมือให้กับ เอสตราด้า เป็นผู้ชนะในไฟต์นั้นในในที่สุด